Docs

ChillPay จัดเต็มเอกสารและคู่มือการใช้งาน ที่เข้าใจง่ายและครบถ้วน เพื่อให้นักพัฒนาและธุรกิจมั่นใจในทุกขั้นตอนของการเชื่อมต่อและการดำเนินงาน

Help developers

🧑‍💻 Developer Support
API (Application Programming Interface) เป็นบริการหรือช่องทางที่ใช้เชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย มีหลักการการทำงานง่ายๆ คือ Client (Application ต่างๆ) ส่งคำสั่งร้องขอไปยัง API เมื่อได้รับข้อมูลแล้ว API จะนำข้อมูลนั้นไปประมวลผล และส่งข้อมูลที่ได้กลับไปฝั่ง Client
จากความหมายของ API ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น คำว่า Open API นั้นหมายถึง บริการที่มีการเปิดให้ใช้สาธารณะ สามารถให้เหล่านักพัฒนาสามารถเชื่อมต่อได้ทันที อีกทั้งยังสามารถรองรับการพัฒนาได้หลากหลายภาษาอีกด้วย

User Guide

📄 User Guide
เอกสารคู่มือการใช้งาน

English.PDF

เอกสารการเชื่อมต่อระบบ (API Document)

Thai .PDF English .PDF

เอกสารการเชื่อมต่อระบบ Online Direct Debit (API Document)

Thai.PDF

แอพพลิเคชั่นสำหรับทดสอบช่องทาง QR Code ,Counter Bill Payment, ShopeePay, SCB Easy App, KMA, Bualuang mBanking, Krungthai Next และ Paotang Pay (รองรับเฉพาะระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 4.4 ขึ้นไป)

Download ChillPay Demo

Privacy Policy

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จํากัด (ซึ่งหมายความถึง บริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ให้บริษัทให้บริการ อาทิเช่น โมเดิร์นเพย์ และชิวเพย์รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่จะให้บริการในอนาคต) (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “บริษัทฯ”) จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อแจ้งให้คุณ, ผู้ใช้บริการ, ร้านค้าที่ใช้บริการของบริษัทฯ (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “ผู้ใช้บริการ”) ทราบถึงขอบเขตวิธีการที่บริษัทฯใช้รวบรวมจัดเก็บ ตลอดจนเข้าถึงและจัดการข้อมูลที่ผู้ใช้บริการให้กับทางบริษัทฯ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) เมื่อผู้ใช้บริการได้เปิดใช้การบริการกับทางบริษัทฯ จะถือว่าผู้ใช้บริการได้ทำความเข้าใจ, ตกลง และยอมรับ ตลอดจนยินยอมปฏิบัติตามนโยบายเปิดเผยความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯและยินยอมให้มีการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านสามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ได้ที่เว็บไซต์ของบริษัท https://www.chillpay.co

ทั้งนี้บริษัทฯอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวในอนาคต จึงขอแนะนำให้ผู้ใช้บริการตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร และนโยบายความเป็นส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ อนึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจะไม่ถูกเก็บรวบรวม, เปิดเผย, ทำให้แพร่หลาย หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบแล้ว เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ หรือมีกฎหมายบัญญัติเป็นการอื่น

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯมีความจำเป็นต้องขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท และ/หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากบริษัท และ/หรือหน่วยงานของรัฐ และ/หรือเอกชนเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งนี้บริษัทฯจะเก็บข้อมูลต่างๆของผู้ใช้บริการ (ซึ่งรวมเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”) ดังนี้

1. ข้อมูลบนบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางหรือหลักฐานอื่นที่ออกโดยราชการ เช่น ชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง ฯลฯ
2. ลักษณะเฉพาะของบุคคล เช่น สถานภาพ ข้อมูลชีวภาพ (Biometrics)
3. ที่อยู่ที่จดทะเบียนไว้ในทะเบียนบ้านและที่อยู่ปัจจุบัน รวมถึงพิกัดตำแหน่งของผู้ใช้งานในปัจจุบัน
4. ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาหรือการทำงาน
5. ข้อมูลที่จำเป็นในการติดต่อผู้ใช้บริการ เช่นที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่และอีเมล ฯลฯ
6. ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน เช่น บันทึกรายการธุรกรรมที่ทำผ่านระบบโมเดิร์นเพย์ และชิวเพย์หรือบริการอื่นๆของบริษัทฯ ข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัญชีเงินฝาก ข้อมูลกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) และข้อมูลอื่นๆของธนาคารหรือสถาบันทางการเงินที่ผู้ใช้บริการมีอยู่ ฯลฯ
7. ข้อมูลสินค้าหรือบริการที่ผู้ใช้บริการทำธุรกรรมกับทางบริษัทฯ
8. ตัวอย่างลายเซ็นของผู้ใช้บริการ
9. ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้บริการของทางบริษัทฯ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่ เครื่อง POS (Point of Sale) รวมถึง หมายเลขประจำเครื่อง (Unique Device Identifier) และหมายเลขที่ใช้สำหรับระบุตัวตนของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่บนเครือข่าย (IP address) ข้อมูลเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ที่ใช้บริการ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตำแหน่งที่อยู่ คุกกี้ (cookie)
10. ข้อมูลอื่นใดที่ระบุไว้ในข้อตกลงการให้บริการกับบริษัทฯ หรือข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้ ในการตรวจสอบและปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ เพื่อความจำเป็นในการขอข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากบริการพื้นฐานของบริษัท หรือกรณีเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่ความละเอียดอ่อน (Sensitive Personal Data) นอกเหนือจากที่ระบุข้างต้น บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนพื้นฐานต่างๆ ภายใต้กฎหมายกำหนดเท่านั้น โดยบริษัทจะแจ้งวัตถุประสงค์ และประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ก่อนหรือขณะที่จะมีการดำเนินการดังกล่าว

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ภายใต้ฐานตามกฎหมายและดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ ของผู้ใช้บริการก่อนเข้าทำสัญญา รวมถึง ความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้บริการเป็นคู่สัญญา แต่ไม่จำกัดเพียงเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    – การพิจารณาคำขอลงทะเบียนเพื่อใช้บริการผลิตภัณฑ์ที่ให้บริษัทฯให้บริการ อาทิเช่น โมเดิร์นเพย์ และชิวเพย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่จะให้บริการในอนาคต
    – การให้บริการช่วยเหลือ ติดต่อสอบถามข้อมูล ตอบรับคำร้องขอ รับข้อมูลข่าวสาร หรือเพื่อการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบริการ
    – การพัฒนา ปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ
    – การประมวลผลข้อมูลเพื่อให้บริการ หรือการอื่นใดที่จำเป็นในการให้บริการที่ดีที่สุดจากบริษัทฯ
  2. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ หลักปฏิบัติ หรือแนวทางปฏิบัติใดๆ ที่ออกโดยหน่วยงานตามกฎหมายหรือที่มีอำนาจกำกับดูแล เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น โดยบริษัทฯอาจนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ตรวจสอบภายใน/ภายนอก หน่วยงานราชการ หรือบุคคลนิติบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ตามนโยบายการดำเนินการตรวจสอบตัวตนเพื่อหาข้อเท็จจริง (KYC/CDD) ภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
  3. เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับข่าวสาร หรือข้อมูล หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดและการส่งเสริมการขาย หรือข้อเสนอเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์, สินค้า และบริการใดๆ หรือเพื่อการเก็บ และใช้ข้อมูลเพื่อการสถิติหรือศึกษาวิจัย วิเคราะห์ ประเมินผลข้อมูล หรือเพื่อจัดการความต้องการทางธุรกิจของบริษัทฯ, คู่ค้าของบริษัทฯหรือบริษัทในเครือตลอดจนวัตถุประสงค์อื่นใดที่บริษัทฯเห็นว่าอาจเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมให้บริษัทฯทำการตรวจสอบ และ/หรือแลกเปลี่ยนข้อมูล และ/หรือเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลใดๆ และ/หรือนิติบุคคลอื่นใด ซึ่งรวมถึงกลุ่มบริษัทในเครือ และ/หรือบุคคลอื่นที่มีสัญญาการคุ้มครองข้อมูลผูกกับบริษัทฯ โดยผู้ใช้บริการจะไม่เรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ จากบริษัทฯ
  4. เพื่อการป้องกันอาชญากรรมและการฉ้อโกง รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของระบบและเครือข่ายเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

ทั้งนี้หากมีการดำเนินการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์อื่นๆนอกเหนือจากนี้ บริษัทฯจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบในภายหลัง

วิธีการรวบรวมข้อมูล

บริษัทฯจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆระหว่างการดำเนินการสมัครเพื่อขอใช้บริการหรือเก็บระหว่างการใช้บริการกับทางบริษัทฯ

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล

บริษัทฯจะเก็บข้อมูลตลอดระยะเวลาที่มีการใช้บริการ หรือจนกระทั่งมีการยกเลิกบริการ ทั้งนี้อาจเก็บรวบรวมไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดไว้ เช่น ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี

การเปิดเผยข้อมูล

บริษัทฯจะไม่เปิดเผยข้อมูล ให้กับบุคคลที่สาม หรือยินยอมให้บุคคลที่สามกระทำการดังกล่าว ยกเว้น

  • ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือคำสั่งศาลหรือเมื่อบริษัทได้รับแจ้งให้ตรวจสอบธุรกรรมที่เข้าข่ายทุจริตจากผู้เกี่ยวข้องในการให้บริการหรือลูกค้า
  • การเปิดเผยให้แก่พนักงาน ลูกจ้าง กรรมการ ที่ปรึกษา ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ
  • บริษัทฯได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอให้เปิดเผย
  • การเปิดเผยให้แก่ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัท หน่วยงานราชการ ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้อง และบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นใด ที่บริษัทจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย
  • การเปิดเผยให้แก่นิติบุคคลที่มีอำนาจควบคุมบริษัทฯ หรืออยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทฯ รวมถึงบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมเดียวกันกับบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่บริษัทฯเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์กับบริษัทฯ รวมถึงผู้ให้บริการอื่นๆ ที่มีอำนาจดำเนินการใดๆกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น ผู้ให้บริการภายนอก สถาบันทางการเงิน หรือคู่ค้าอื่นใดของบริษัทฯ
  • ผู้รับโอนธุรกิจ/กิจการ ในกรณีที่บริษัทฯมีการควบรวม โอน ขาย ทรัพย์สิน และ/หรือกิจการทั้งหมด หรือแต่บางส่วน

การใช้สิทธิลบ หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ

เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย หากผู้ใช้บริการมีความประสงค์ให้ลบหรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเอง แล้วเหตุแห่งการกระทำดังกล่าวขัดแย้งกับข้อบังคับที่กฏหมายอื่นใดกำหนดไว้ บริษัทฯจะไม่สามารถดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวได้ เนื่องจากตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น บังคับให้บริษัทในฐานะผู้รับข้อมูลหรือผู้ประมวลผลข้อมูล ต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลา 10 ปี

การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

บริษัทฯรับทราบและตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ บริษัทฯจึงได้ปรับปรุงและพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้สอดคล้องกับความปลอดภัยตามหลักมาตรฐาน สากลตลอดเวลา บริษัทฯจะดำเนินการอย่างเต็มความสามารถเพื่อปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีหน้าที่ตามกฎหมาย รักษาซึ่งความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ

อย่างไรก็ตามในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการถูกจารกรรมด้วยวิธีใดๆ เช่นการจารกรรมทางคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าด้วยวิธีการเจาะระบบ (Hacking) ขโมย สำเนา หรือทำลายฐานข้อมูล ทำลายรหัสลับส่วนตัว หรือการจารกรรมทางเอกสาร หรือวิธีการอื่นใดซึ่งมิใช่ความผิดของบริษัทฯ หรือการสูญหายทางข้อมูลอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยหรือการกระทำอื่นใดที่มิได้กระทำโดยบริษัทฯ บริษัทฯมีสิทธิที่จะปฏิเสธความรับผิดใดๆอันเป็นผลมาจากการกระทำดังกล่าว

ภาษา

การแปลนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ไม่ว่าจะแปลเป็นภาษาใดก็ตาม มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกของท่านเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาใดๆที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่มีข้อความขัดแย้งกันระหว่างฉบับภาษาไทยและภาษาอื่นๆที่ไม่ใช่ภาษาไทย ให้ยึดข้อความตามภาษาไทยเป็นหลัก

การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเกิดขึ้น บริษัทฯจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้ใช้บริการ บริษัทฯจะแจ้งการละเมิดให้ผู้ใช้บริการทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ หรือ จดหมาย เป็นต้น

สิทธิของผู้ใช้บริการในจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล

หากผู้ใช้บริการมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่ผู้ใช้บริการส่งมาให้บริษัทฯ โปรดติดต่อทางอีเมลที่ dpo@chillpay.co หรือติดต่อที่หมายเลข 02-107-7788 ในวันและเวลาทำการของบริษัทฯ

Terms and Conditions

ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด

ยินดีต้อนรับสู่บริการระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ChillPay 

ข้อกําหนดและเงื่อนไขนี้ (“ข้อกำหนด”) ใช้บังคับกับผู้ใช้บริการระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรับชำระค่าสินค้าและ/หรือบริการ ซึ่งให้บริการภายใต้ชื่อประกอบทางการค้า ChillPay (ชิวเพย์) หรือ ชื่ออื่นใดที่บริษัทกำหนด ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ผู้ขอใช้บริการ” โดยผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมผูกพันและปฏิบัติตามข้อกําหนดและเงื่อนไขการใช้บริการระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด ดังนี้

คําจํากัดความต่างๆ ในข้อกําหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ มีความหมายดังต่อไปนี้
  • “ผู้ให้บริการ หรือ บริษัทฯ ” หมายถึง บริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด
  • “ผู้ขอใช้บริการ” หมายถึง เจ้าของและ/หรือผู้ประกอบธุรกิจ หรือเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายในการขายสินค้าและ/หรือบริกาต่างๆ ที่ประสงค์จะใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด ในการรับชำระค่าสินค้า/บริการ
  • “ลูกค้า” หมายถึง บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ซึ่งเป็นลูกค้า และหรือผู้ใช้บริการของผู้ขอใช้บริการ
  • “บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์” หมายถึง การให้บริการของบริษัทฯ ในการรับชำระเงินค่าสินค้า/บริการจากลูกค้าแทนผู้ขอใช้บริการ ด้วยวิธีการและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการรับชำระเงินค่าสินค้า/บริการต่างๆ แบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชัน และ/หรือสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดของผู้ขอใช้บริการที่กำหนด ซึ่งมีการเชื่อมต่อกับช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อทำการสมัครหรือลงทะเบียนใช้งานบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เรียบร้อยแล้ว ผู้ขอใช้บริการจะต้องส่งเอกสารประกอบการสมัครและเอกสารยืนยันตัวตนให้แก่ผู้ให้บริการ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตัวตนของผู้ขอใช้บริการ KYC (Know Your Customer) ตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด (“การตรวจสอบ”) และการจัดทำเอกสารสัญญาสำหรับการลงนาม
 
กรณีผ่านการตรวจสอบ

ในกรณีที่เอกสารของผู้ขอใช้บริการผ่านการตรวจสอบ ผู้ให้บริการจะทำการออกเอกสารสัญญาเพื่อให้ผู้ขอใช้บริการลงนาม โดยสามารถลงนามได้ทั้งบนเอกสารสัญญาหรือลงนามออนไลน์แบบ DocuSign อย่างไรก็ตาม หากมียอดชำระค่าสินค้า/บริการเข้ามาในระบบบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างการตรวจสอบเอกสารประกอบการสมัครและเอกสารยืนยันตัวตน ผู้ให้บริการจะระงับยอดเงินดังกล่าวไว้ จนกว่าจะการลงนามในสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อสัญญาระหว่างผู้ให้บริการและผู้ขอใช้บริการเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผู้ให้บริการจึงจะดำเนินการโอนเงินค่าสินค้า/บริการที่ได้รับจากลูกค้า ให้แก่ผู้ขอใช้บริการภายในวันทำการถัดไป หลังจากวันที่ได้ชำระจากลูกค้า (T+1) เว้นแต่ กรณีที่เกิดเหตุระบบขัดข้องหรือเหตุสุดวิสัย จะโอนเงินภายในไม่เกินวันทำการถัดไป

กรณีไม่ผ่านการตรวจสอบ

ในกรณีที่เอกสารของผู้ขอใช้บริการไม่ผ่านการตรวจสอบ ผู้ขอใช้บริการรับทราบและตกลงว่า (ก) ผู้ให้บริการสามารถดำเนินการยุติการให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ทันทีมิพักต้องแจ้งล่วงหน้า (ข) ผู้ให้บริการ หรือ ผู้ประสานงานของผู้ให้บริการ (แล้วแต่กรณี) จะดำเนินการแจ้งให้แก่ผู้ขอใช้บริการทราบถึงผลการพิจารณาตรวจสอบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางการติดต่อที่ได้ให้ไว้กับผู้ให้บริการ และ (ค) ผู้ให้บริการจะดำเนินการหักค่าธรรมเนียมการใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ตามการใช้งานที่ผู้ขอใช้บริการใช้งานจริงจึงจะดำเนินการโอนเงินค่าสินค้า/บริการที่ได้รับจากลูกค้า คืนให้แก่ผู้ขอใช้บริการ ภายใน 30 (สามสิบ) วันทำการของผู้ให้บริการ นับแต่วันที่ผู้ให้บริการแจ้งผลการพิจารณาตรวจสอบตาม (ข)

ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการตกลงยอมรับและเข้าใจว่า ไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตาม ในกรณีที่เกิดความเสียหายหรือสิทธิเรียกร้องใดๆ การใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ขอใช้บริการตกลงสละสิทธิเรียกร้องใดๆ ทั้งหมด ทั้งนี้หมายความรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ค่าเสียหาย หรือการใช้สิทธิทางศาลไม่ว่าทางแพ่งและอาญาต่อผู้ให้บริการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน

กรณีไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเอกสารไม่ครบถ้วน

หากเอกสารไม่ครบถ้วนหรือเพียงพอต่อการตรวจสอบ ฝ่ายตรวจสอบข้อมูลของผู้ให้บริการจะแจ้งไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานงานกับผู้ขอใช้บริการในการขอเอกสารประกอบการสมัครหรือเอกสารยืนยันตัวตนเพิ่มเติม และเมื่อผู้ขอใช้บริการส่งเอกสารเพิ่มเติมครบถ้วนแล้ว ฝ่ายตรวจสอบจะนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและแจ้งผลการตรวจสอบให้ทราบอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม หากผู้ขอใช้บริการไม่ดำเนินการจัดส่งหรือทำเอกสารเพิ่มเติมภายใน 15 (สิบห้า) วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากฝ่ายประสานงานของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวและยุติการให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ผู้ขอใช้บริการตกลงรับทราบและได้อ่านทำความเข้าใจข้อความในข้อกำหนดนี้ รวมถึงเอกสารแนบท้ายต่างๆ (ถ้ามี) อย่างละเอียดแล้ว และผู้ขอใช้บริการตกลงจะดำเนินการตรวจสอบเงื่อนไขในการให้บริการนี้อย่างสม่ำเสมอ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริการสามารถติดต่อสอบถาม ได้ที่ 02-107-7788 หรือ อีเมลcustomersupport@chillpay.co ในวันและเวลาทำการของบริษัทฯ

ข้อกำหนดทั่วไป
  1. ผู้ขอใช้บริการตกลงที่จะปฏิบัติและผูกพันตามเงื่อนไขการให้บริการ ซึ่งการใช้บริการของผู้ขอใช้บริการถือเป็นการยอมรับเงื่อนไขการให้บริการนี้ โดยผู้ให้บริการอาจแก้ไข หรือเพิ่มเติมเงื่อนไขการให้บริการได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบล่วงหน้า เว้นแต่เป็นการแก้ไขที่ส่งผลกระทบต่อผู้ขอใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญ
  2. ผู้ขอใช้บริการตกลงผูกพันตามเงื่อนไขการให้บริการของผู้ให้บริการทั้งที่มีอยู่ในขณะนี้ และที่จะมีประกาศแก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมต่อไปในภายหน้าโดยทางผู้ให้บริการจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ตามช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนด
  3. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงหรือยกเลิกการบริการ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบริการ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำแบบชั่วคราวหรือมีผลการปรับปรุงหรือยกเลิกการบริการถาวรได้ตลอดเวลา โดยจะแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการให้ทราบล่วงหน้า
ขอบเขตการให้บริการ

ผู้ขอใช้บริการตกลงจะใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ ChillPay เพื่อรับชำระค่าสินค้า/บริการ โดยมีขอบเขตการทำงานตามหน้าที่และความรับผิดชอบดังนี้

  • ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์กับผู้ขอใช้บริการผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ChillPay
  • ปรับปรุงระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ChillPay ให้ตรงกับข้อกำหนดการชำระเงิน
  • ดูแลรักษาและแก้ไขปัญหาของระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ChillPay เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยการสมัครใช้บริการ ChillPay สามารถกระทำการได้ 3 วิธีคือ
  • สมัครผ่านพนักงานขายหรือตัวแทนขายของผู้ให้บริการ
  • สมัครผ่านทางเมลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail)
  • สมัครผ่านทางเว็บไซต์

ทั้งนี้เมื่อผู้ขอใช้บริการทำการสมัครเสร็จสิ้นต้องทำการส่งเอกสารยืนยันตัวตนให้ทางผู้ให้บริการ โดยสามารถส่งได้ทั้งเอกสารที่เป็นกระดาษ (Hard Copy) และเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Soft Copy) จากนั้นจึงลงนามในเอกสารสัญญาซึ่งสามารถลงนามได้ทั้งบนเอกสารสัญญาหรือลงนามออนไลน์แบบ DocuSign

คุณสมบัติผู้ใช้บริการ

ผู้ขอใช้บริการจะต้องเป็นนิติบุคคล (จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย) หรือบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นเจ้าของและ/หรือผู้ประกอบธุรกิจ หรือเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายในการขายสินค้าและ/หรือบริการต่างๆ และประสงค์จะใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในการรับชำระค่าสินค้า/บริการ ซึ่งการประกอบธุรกิจดังกล่าวจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายและกรณีธุรกิจที่ต้องมีใบอนุญาตการตามกฎหมายกำหนด อีกทั้งต้องไม่เป็นธุรกิจที่ขัดต่อนโยบายของบริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด

ประเภทบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

ผู้ขอใช้บริการตกลงจะใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท ตามประเภทบริการชำระเงินที่กำหนดไว้ตามนโยบายของบริษัท

ภาษี

ทั้งสองฝ่ายตกลงและรับทราบว่า แต่ละฝ่ายมีหน้าที่และความรับผิดทางภาษีอากรตามกฎหมาย อันเกิดจากรายได้ตามอัตราที่กำหนดไว้

การเก็บรักษาความลับ

ทั้งสองฝ่ายตกลงเก็บรักษารายละเอียด ข้อมูลต่างๆ ที่ได้รู้ หรือรับทราบ ไม่ว่าโดยวิธีใดๆ อันเนื่องมาจากการปฏิบัติงานไว้เป็นความลับ โดยสัญญาว่าจะไม่เปิดเผย เผยแพร่ให้กับบุคคลที่สามทราบ หรือยินยอมให้บุคคลใดกระทำการดังกล่าว เว้นแต่การเปิดเผยในกรณีดังต่อไปนี้

  1. การเปิดเผยโดยกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง หมายของศาล เจ้าพนักงาน หรือผู้มีอำนาจตามกฎหมาย โดยจะแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบทันที
  2. เป็นการเปิดเผยให้แก่พนักงาน ลูกจ้าง กรรมการ ที่ปรึกษา ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ
  3. เป็นการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นที่ล่วงรู้แก่สาธารณชนทั่วไปอยู่แล้ว ซึ่งมิได้เป็นผลมาจากการฝ่าฝืนในการรักษาความลับของแต่ละฝ่าย
  4. เป็นการเปิดเผยโดยได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เปิดเผยข้อมูล โดยข้อมูลอันเป็นความลับดังกล่าวตกลงจะดูแลและควบคุมให้พนักงานของตนปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้อย่างเคร่งครัด
การโอนเงินค่าสินค้าและ/หรือบริการ
  1. เมื่อผู้ให้บริการได้รับชำระเงินจากลูกค้าแล้ว ผู้ให้บริการจะโอนเงินค่าสินค้า/บริการที่ได้รับจากลูกค้า ไปให้ผู้ขอใช้บริการ ภายในวันทำการถัดไป หลังจากวันที่ได้ชำระจากลูกค้า (T+1) เว้นแต่ กรณีระบบขัดข้องหรือเกิดเหตุสุดวิสัย จะโอนเงินภายในไม่เกินวันทำการถัดไป
  2. ผู้ขอใช้บริการตกลง และยินยอมให้ผู้ให้บริการหักเงินในจำนวนเท่ากับค่าบริการหลังจากหักภาษี ณ ที่จ่าย และโอนเงินค่าสินค้า หรือ บริการส่วนที่เหลือให้แก่ผู้ขอใช้บริการตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
  3. เมื่อผู้ให้บริการได้รับค่าบริการตามสัญญาแล้ว ผู้ให้บริการจะสรุปยอดชำระค่าบริการดังกล่าว และออกใบกำกับภาษีไปให้ผู้ขอใช้บริการทุกวันสุดท้ายของเดือน
  4. กรณีที่ผู้ให้บริการได้หักภาษี ณ ที่จ่าย ตามกฎหมายแล้ว โดยคำนวณจากยอดเงินค่าบริการที่ผู้ให้บริการมีสิทธิได้รับในแต่ละเดือน หลังจากผู้ขอใช้บริการตรวจสอบ และยืนยันแล้ว พร้อมออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ภายใน 3 (สาม) วัน หลังจากวันที่สุดท้ายของเดือน
  5. ผู้ให้บริการไม่มีนโยบายในการคืนเงิน (Refund) กรณีที่มีการยกเลิก แก้ไข เปลี่ยนแปลง ยอดเงินที่ได้ทำธุรกรรมเสร็จสิ้นแล้ว จากลูกค้า หรือ ผู้ใช้บริการ ยกเว้นประเภทการชำระเงินออนไลน์ แบบ Credit Card
  6. รายการชำระเงินด้วย ChillPay ที่ได้ถูกอนุมัติไปแล้ว ภายหลังธนาคารอาจตรวจพบข้อสงสัย หรือความผิดปกติ หรือการทุจริต ฉ้อโกง ของลูกค้า ต่อมาจึงเกิดการปฏิเสธการจ่ายเงิน หากธนาคารได้หักเงินหรือเรียกเงินคืนไม่ว่าด้วยกรณีใดก็ตาม ผู้ขอใช้บริการจะต้องชำระคืน “เงินที่ต้องคืน” ตามจำนวนเงินที่ถูกปฏิเสธ หรือถูกหัก หรือถูกเรียกคืนกลับมายังผู้ให้บริการ ภายใน 7 (เจ็ด) วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้ให้บริการแจ้งผู้ขอใช้บริการให้ทราบถึงเรื่องดังกล่าว
  7. ผู้ขอใช้บริการรับทราบว่า กรณีที่ธนาคารหรือบริษัทตรวจพบว่ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้บริการ และ/หรือเหตุอื่นใดอันน่าสงสัยเกี่ยวกับการชำระค่าสินค้า/บริการ การฉ้อโกงหรือทุจริต ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้บริษัทมีสิทธิระงับการจ่ายเงินหรือนำเงินเข้าบัญชีของผู้ขอใช้บริการสำหรับรายการที่เกิดปัญหานั้น ๆ ไว้ก่อนจนกว่าจะได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติ โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบล่วงหน้าก่อนเพื่อร่วมกันตรวจสอบหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้งานช่องทางการให้บริการ
  1. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิที่จะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการใดๆ ที่ระบุอยู่ในช่องทางการให้บริการนี้ รวมทั้งที่ระบุอยู่ในช่องทางการให้บริการใดช่องทางหนึ่งเป็นการเฉพาะ ผู้ขอใช้บริการมีหน้าที่ที่จะต้องคอยตรวจสอบข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการ รวมทั้งข้อกำหนดเพิ่มเติมใดๆ ที่กำหนดอยู่ในช่องทางเว็บไซต์ www.chillpay.co อย่างสม่ำเสมอ การใช้ช่องทางการให้บริการ
  2. ของผู้ขอใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ให้ถือว่ามผลผูกพันผู้ขอใช้บริการต่อข้อตกลงและสัญญาตามข้อกำหนด รวมถึงเงื่อนไขใดๆ ที่ได้ถูกแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทั้งหมดด้วย
  3. ในกรณีที่การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้งานส่งผลให้ผู้ขอใช้บริการเกิดภาระหรือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลเมื่อผู้ขอใช้บริการให้ความยินยอม
  4. หากมีกฎหมายและ/หรือกฎเกณฑ์กำหนดให้ผู้ให้บริการดำเนินการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขไว้เป็นการเฉพาะเป็นอย่างอื่น ผู้ขอใช้บริการตกลงยินยอมให้ผู้ให้บริการปฏิบัติตามกฎหมายและ/หรือกฎเกณฑ์ดังกล่าวได้
การรับข้อร้องเรียนและแก้ไขปัญหา

ผู้ให้บริการมีนโยบายการรับข้อร้องเรียนและแก้ไขปัญหาผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนดไว้ โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุขัดข้องได้ที่ 02-107-7788 หรือ อีเมล customersupport@chillpay.co ในวันและเวลาทำการของบริษัทฯ

สิทธิในการเข้าถึง

ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิในการปรับปรุงหรือแก้ไขช่องทางการให้บริการหรือเนื้อหาใดๆ บนเว็บไซต์นี้ ในเวลาใดๆ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธหรือจำกัดการเข้าถึงเว็บไซต์นี้ของบุคคลใด หรือจากเลขที่อยู่อินเตอร์เน็ต (IP Address) ใด โดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวหรือระบุเหตุผลในการดำเนินการนั้น

กฎหมายที่ใช้บังคับ

ข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ อยู่ภายใต้บังคับและการตีความตามกฎหมายของประเทศไทย

ข้าพเจ้าได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ใน “ข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้เครื่องหมายการค้า ChillPay ของบริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด” ทุกประการ

ลองฟรี! โหมด Sandbox

ทดลองใช้งานสภาพแวดล้อมทดสอบที่ปลอดความเสี่ยงของ ChillPay
จำลองธุรกรรม สำรวจฟีเจอร์ และมั่นใจได้ว่าการเชื่อมต่อสำหรับทุกธุรกิจนั้นง่ายและปลอดภัย

Scroll to Top